- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
26 พ.ค. 2560
และแล้วก็มาถึงภพสำคัญที่หลายคนจดจ่อรอคอย คือภพที่ ๗ ของลัคนา ที่เราทุกคนเข้าใจว่า หมายถึง เรื่องราวที่เกี่ยวกับคู่ครองหรือเนื้อคู่เพียงอย่างเดียว
ต่อมาเมื่อเราเรียนรู้มากขึ้น ก็จะมีความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกว่า ภพปัตนิ คือภพของหุ้นส่วน คู่แข่ง คู่ซี้ (หมายถึงว่าเวลาจะซี้ เอ็งก็ซี้แทนข้าก็แล้วกัน)
และเมื่อถึงเวลาจะทำนาย เราก็สามารถทายเกี่ยวกับการเดินทางอีกด้วย เมื่อมีดาวบาปเคราะห์โคจรเข้ามาในภพนี้ จะหมายถึงการเดินทางโดยเจตนา หรือการวางแผนของเจ้าชาตา และในเคล็ดการทำนาย ยังหมายถึงบุตรคนที่สามอีกด้วย
เมื่อมีดาว ๖ เล็งลัคน์ ตามตำราโบราณท่านว่าไว้ว่า “ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันดร์”
ดังนั้น ภพปัตนิ ยังมีความหมายไปในทางความสำราญของเจ้าชาตา ซึ่งถ้าหากมีดาว ๖ มาเล็ง คือความสำราญเกินขนาด จนร้อนนั่นแหละ หรือไม่ ก็สำราญเสียจนหาเรื่องใส่ตัว
ส่วนศุภเคราะห์ที่สำคัญอีกดวงคือ ดาว ๕ ถ้ามาอยู่ในภพปัตนิ เหมือนมีครูมาเป็นคู่ครอง คงจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเกิดวันพฤหัสบดีด้วยแล้ว มีความหมายเป็นพินทุบาทว์ทีเดียว
ไหนๆ ก็เริ่มไล่มาทีละดวง ดังนั้น ขอเริ่มไล่ไปทุกดวงเป็นความรู้ โดยเริ่มจากดาว ๑ ก่อน
ดาว ๑ ในภพที่ ๗
เนื่องจากภพที่ ๗ หรือภพปัตนินี้ มีความหมายที่เกี่ยวกับคู่ครอง ดังนั้น จะมีความหมายถึงชีวิตครอบครัว การมีครอบครัวด้วย
ดาว ๑ ที่อยู่ในภพนี้ มักทำให้เจ้าชาตาไม่ค่อยเกรงใจคู่ครอง เป็นคนเก่ง อาจทำให้แต่งงานช้า หรือแต่งงานสองครั้ง ยกเว้นถ้าดาว ๑ สถิตอยู่ในราศีตนเอง คือราศีสิงห์ จะมีคู่ครองเพียงคนเดียว โดยมากดาว ๑ ในภพปัตนิ ทำให้เป็นคนชอบสังคม ไม่ค่อยอยู่บ้าน เป็นที่คลางแคลงใจของสามีหรือภรรยา ถ้างานมาก ต้องชี้แจงกันให้ดีๆ หรือไม่ก็ชักชวนให้ไปด้วยกัน
สรุปได้ว่า ดาว ๑ ในราศีนี้ จะแสดงผลให้เป็นคนไม่อยู่บ้าน กลับบ้านดึก หรือไม่ ก็ต้องมาแวะที่อื่นก่อนจะเข้าบ้าน เป็นต้น เพราะว่าดาว ๑ เป็นดาวแห่งความร้อนและให้พลัง จึงไม่ค่อยหมดพลังในการอยู่นอกบ้านง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ควรดูภพพันธุประกอบกัน ถ้าภพพันธุไม่ถูกเบียน ก็จะมีความสมหวังในชีวิตครอบครัว
และถ้าดาว ๑ ในภพปัตนินี้ สัมพันธ์กับดาว ๕ จะมีความหมายถึง ความสำเร็จในธุรกิจการงาน
ดาว ๑ ในภพปัตนิ หากถูกดาวบาปเคราะห์เบียน มักได้รับคำดูหมิ่นจากคู่ครอง สุขภาพก็ไม่ค่อยดี มักล้มเหลว และมีชีวิตที่ร้อนรน ดาวบาปเคราะห์ที่ว่านี้คือ ดาว ๘ ดาว ๐ และดาว ๗
ดาว ๒ ในภพที่ ๗
มักแต่งงานเมื่อวัย ๓๐ปีไปแล้ว เป็นคนพูดเสียงเบา มักหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องคู่ครอง หรือมีความวิตกกังวล ไม่ว่าจะแต่งหรือไม่แต่ง กังวลทั้งนั้น แต่เอาเถอะขอบอกว่า มักได้คู่ครองหน้าตาดี (ยกเว้นดาว ๒ ของเราไม่มีกำลัง คือ ข้างแรมแก่ๆ และข้างขึ้นอ่อนๆ นั่นแหละ)
ภพที่ ๗ มีความหมายไปถึงหุ้นส่วน และการเป็นตัวแทนการค้าระหว่างประเทศด้วย ดังนั้น การมีดาว ๒ ในภพปัตนิ อาจได้เป็นตัวแทนสินค้าต่างประเทศ และถ้าได้รับกระแสสัมพันธ์ที่ดี ก็จะประสบความสำเร็จ รวมทั้งมีมิตรคอยอุปถัมภ์
ดาว ๓ ในภพปัตนิ
ดาว ๓ จัดเป็นดาวบาปเคราะห์เล็กๆ แต่ก็ให้ผลที่เร็วและรุนแรง แตกหัก โดดเดี่ยว และพลัดพราก และเป็นดาวที่แสดงถึงความเอาแต่ใจตัว ชาตาใครมีลัคนาสัมพันธ์กับดาว ๓ สังเกตดูเถอะ มักฉุนเฉียวง่าย เอาแต่ใจ บางครั้งก็ขาดเหตุผล
ทางแก้ไข สำหรับผู้ที่ดาว ๓ อยู่ในภพที่ ๗ คือ อย่าเอาแต่ใจตัวเป็นอันขาด มิฉะนั้น ก็จะเข้าตามตำราโบราณ และจะนำความแตกแยกมาสู่ในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าดาว ๓ นั้นถูกเบียนจากดาวบาปเคราะห์ (ถูกเบียนคือ เป็น ๑ เป็น ๔ เป็น ๗ เป็น ๑๐)
บุคคลใดที่มีดาว ๓ อยู่ในภพที่ ๗ และปีใดก็ตาม มีดาวบาปเคราะห์ คือ ดาว ๘ และดาวเสาร์เข้ามาทับดาวอังคาร ระวังอุบัติเหตุ หรือทรัพย์สินเสียหาย และอย่างร้ายแรงที่สุดคือ ระวังไฟจะไหม้บ้าน ทางแก้คือ บวช หรือไม่ก็ถือศีลให้เคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม หากเรามีดาว ๓ เล็งลัคน์อยู่ ให้ปฏิบัติ ตั้งมั่นอยู่ในความดีเสียตั้งแต่บัดนี้ ก็จะพ้นภัย