- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
22 มิ.ย. 2560
ภพกัมมะ หรือภพแห่งชะตากรรมนี้ ถ้าหากมีดาวเคราะห์ลอยสถิตอยู่ จะมีความหมายถึง บุคลิกหรืออารมณ์ที่ครอบงำเจ้าชาตาอยู่ตลอดชีวิต
แต่ถ้าไม่มีดาวใดสถิตอยู่ ให้ถือว่าดาวเจ้าเรือนนั้น จะไปสถิตอยู่ที่ใด ย่อมบอกถึงสถานภาพของเจ้าชาตา ลักษณะงานที่ทำ และลักษณะของบุคคลที่ต้องไปเกี่ยวข้อง
มีหมายความรวมไปถึง อำนาจ หน้าที่ ลักษณะเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ความว่องไวในการทำงาน การพักผ่อน จะตื่นสายหรือไม่ นอนหลับสบายหรือไม่ ก็จะพิจารณาถึงภพนี้อีกเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีความหมายทางด้านอารมณ์ การทำประโยชน์ให้กับสังคม รวมถึงยศถาบรรดาศักดิ์ด้วย
ในการพิจารณาภพกัมมะ ท่านให้พิจารณา ดาว ๑ ดาว ๔ ดาว ๕ และดาว ๗ เป็นองค์ประกอบ
สมมุติว่า ดาวเจ้าเรือนภพที่ ๑๐ ไปสถิตอยู่ราศีชมพูทวีป ต้องเผชิญอุปสรรคนานัปการ ถ้าดาวกัมมะเป็นดาวศุภเคราะห์ ได้แสงสนับสนุนจากดาวดวงอื่นๆ ในลักษณะโยค หรือตรีโกณ ก็จะประสบความสำเร็จในที่สุด แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม เป็นดาวบาปเคราะห์ หรือได้รับแสงจากบาปเคราะห์ ก็จะประสบกับความล้มเหลวเสมอๆ
ถ้าดาวเจ้าเรือนภพกัมมะ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เข้มแข็ง จะเป็นคนโลเล ไม่แน่นอน ทรยศคดโกง ชอบทำความชั่ว ทั้งนี้ให้พิจารณาตำแหน่งดาว ๑, ๔, ๕ และดาว ๗ ประกอบกัน คือถ้าอยู่ในภพที่ไม่ให้คุณกับเจ้าชาตา ก็จะแสดงผลในทางร้ายมากกว่าในทางดี
โดยปกติ การพิจารณาเกี่ยวกับอาชีพของเจ้าชาตา มักจะดูควบคู่กันไประหว่างภพที่ ๑๐ จากลัคนา หรือจากดาว ๒ โดยพิจารณาว่าตำแหน่งใดจะเข้มแข็งกว่ากัน
แต่จากประสบการณ์ของยาย สามารถพิจารณาจากดาวที่มีองศาสูงสุด และมีตำแหน่งที่เข้มแข็งในดวงชาตาของบุคคลนั้นได้เช่นเดียวกัน
การพิจารณาดาวเจ้าเรือนกัมมะ ถ้าจะให้ผลที่แน่นอน ควรพิจารณาว่าเกาะในนวางค์ใด ก็สามารถพยากรณ์ได้ละเอียดมากขึ้น
สรุปแล้ว เมื่อพิจารณาได้แล้วว่า ใครเข้มแข็งกว่ากัน ท่านให้พิจารณาดูว่า ดาวเจ้าเรือนกัมมะของลัคนา หรือจันทร์ หรือดาวที่มีองศาสูงสุดนั้น สถิตยอยู่ภพใด เกาะนวางค์ใด และได้รับกระแสสัมพันธ์กับดาวใดบ้าง อันเป็นองค์ประกอบสำหรับพยากรณ์อาชีพของเจ้าชาตา
ดาวในนวางค์แสดงอาชีพ พอสังเขปดังนี้
นวางค์ ๑ เกี่ยวกับการพยากรณ์ การรักษาโรค นายแพทย์ การค้าขายเกี่ยวกับขนสัตว์ เมล็ดพันธุ์พืช การเกษตร สมุนไพร ช่างทอง ทองคำ ไข่มุก นายหน้า รับประมูลงาน หรือถ้าดาว ๑ แข็ง ก็รับราชการ หรือเป็นนักการเมือง
นวางค์ ๒ อาชีพเกี่ยวกับการบริการ เกี่ยวกับน้ำ ไข่มุก กลาสีเรือ ชาวประมง นักประดาน้ำ การติดต่อ ผู้ใหญ่ สตรีที่สูงศักดิ์ แม่บ้าน พยาบาล
นวางค์ ๓ เกี่ยวกับการทหาร ตำรวจ ที่ใช้อาวุธในการต่อสู้ เกี่ยวกับโรงงาน เหล็ก ไฟ เครื่องจักร คนขับรถ เครื่องบิน นักฆ่า เภสัช หรืออย่างร้ายๆ เป็นโจร
นวางค์ ๔ เกี่ยวกับหนังสือ วรรณกรรม ศิลปกรรม นักแปล ล่าม นักการทูต นักจัดรายการวิทยุ นักกฎหมาย นักคำนวณ เศรษฐศาสตร์ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์
นวางค์ ๕ เป็นอาจารย์ อาชีพที่เกี่ยวกับวิชาความรู้ การค้นคว้าเกี่ยวกับวัตถุโบราณ การรักษาขนบธรรมเนียมโบราณ ผู้พิพากษา ตุลาการ นักบวช การธนาคาร นักบริหาร
นวางค์ ๖ เจ้าชาตาจะประกอบอาชีพเสริมสวย การค้าขาย ช้าง ม้า วัว ควาย ค้าทอง พลอย ทับทิม โรงแรม การตกแต่งบ้าน การดนตรี ผับ ภัตตาคาร ขายอาหาร ขนม น้ำอบ ขายนม การเลี้ยงสัตว์
นวางค์ ๗ เจ้าชาตามักต้องประกอบอาชีพที่ต้องอาศัยแรงกาย ถ้าดาว ๑ ดาว ๔ ดาว ๗ และดาว ๕ ในดวงชาตาไม่ส่งเสริม ก็มักประกอบอาชีพที่ทุจริต การทำรองเท้า พ่อค้าเร่ร่อน ทำสวนดอกไม้ ทำเหมืองแร่ การชำระสิ่งโสโครก การทำความสะอาด
บางชาตา ถ้ามีดาวบาปเคราะห์อยู่ในภพเกณฑ์ คือภพที่ ๑, ๔, ๗ และภพที่ ๑๐ เจ้าชาตามักตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของมิจฉาชีพ บ้างอยู่อัตคัด ชีวิตคับแค้น เผชิญอุปสรรค ขาดความรู้
และถ้ามีดาวศุภเคราะห์อยู่ในภพเกณฑ์ทั้งหมด เจ้าชาตาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน จะได้เป็นใหญ่และมีชื่อเสียงโด่งดัง สติปัญญาเฉลียวฉลาด มั่งคั่งร่ำรวย