ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

ปฏิจจสมุปบาท กับโหราศาสตร์ (๓) โดย อ.ษณอนงค์ คำแสนหวี (อ.แอน)
4 ธ.ค. 2554

 

 

 


     ราศีเมถุน อันเป็นราศีของธาตุลม และมีดาวเกตุเป็นดาวเกษตรเทียมครองอยู่ เกตุเป็นวิญญาณธาตุ ข้อนี้เป็นที่รู้ดีในวงการโหรมานานแล้ว เช่นเดียวกับราหู  เป็นลักษณะของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า เป็นคราสเล็ก ๆ หรือประเภทผีพุ่งใต้ ที่ไม่มีตัวตน หรือเป็นทำนองเดียวกับวิญญาณทั่วไป รู้สึกแต่ไม่มีตัว วิญญาณตัวนี้คือความรู้สึก ตอนแรก อวิชชา ความโง่เขลาที่เราคิดว่ามีตัวและเริ่มปรุงแต่ง เริ่มเกิดความรู้สึกกับการปรุงแต่งนั้น จริงจังกับความคิดที่เราสร้างขึ้นมา
 

เช่น พอคนเขาว่าประโยคนี้  เราเกิดไปจริงจังเอาเป็นเอาตาย  ต้องขอขมาต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ พอความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นมาแล้ว ก็ก่อให้เกิดนามรูปขึ้นมา คือราศีกรกฎ ซึ่งมีดาวจันทร์ครองอยู่ในราศีกรกฎ  ในวงการโหราศาสตร์ถือว่ามีความสำคัญอันดับรองจากลัคนา ที่เรียกว่าลัคน์จันทร์ ถ้าหากบาปเคราะห์ร่วมกันเบียนจันทร์ขนานใหญ่  ชีวิตหรือว่ารูปอันครองสังขารและวิญญาณก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้าเกิดเราเข้าใจตรงนี้ เราไม่ปรุงแต่ง เราไม่รู้สึก นามรูปตัวนี้ก็ไม่เจ็บไม่ปวด เราก็ไม่กระทบกระเทือน เพราะฉะนั้น จันทร์เป็นลักษณะมหาภูตรูป หรือเรียกว่าธาตุทั้ง ๔ มาประชุมให้เกิดขึ้นเป็น เนื้อหนัง ผม ขน เล็บ ฟัน ตามเค้าโครงเดิมของสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมา ดังนั้นเวลาปฏิบัติพระท่านจะต้องมาพิจารณาถึงนามรูปตัวนี้ก่อนว่า ก่อเกิดมาจากอวิชชา สังขาร วิญญาณ ถ้าเกิดเราตัด ๔ ตัวนี้ได้ ตัวอื่นไม่เกิดแล้ว
 

ตัวที่จะเกิดต่อมาคือราศีสิงห์ อาทิตย์ในราศีสิงห์ คือต้นกำเนิดของสุริยะจักรวาลนั่นเอง ซึ่งโดยปกติกำเนิดของสุริยะจักรวาลหรือดาวอาทิตย์ย่อมมีอำนาจ หรือมีอิทธิพลที่จะบันดาลให้มีการประชุมสังขารขึ้นมา ดังนั้นดาวอาทิตย์จึงเป็นตัวสร้างสรรค์ ปรุงแต่งให้วิญญาณรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ด้วยสัมผัส อายตนะทั้งปวง ซึ่งถ้าหากปราศจากอาทิตย์ คือ ตัวสัมผัส ตัวรับรู้ เช่น หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รับรู้ได้ทุกทิศทุกทางก็จะไม่ประณีต
 

เพราะฉะนั้น จึงบอกว่าถ้าอาทิตย์ของคนไหนเสีย  เป็นคนที่ไม่ค่อยประณีตเท่าไร  ถ้าอาทิตย์ดีจะบอกว่าเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนโรแมนติก  เพราะอาทิตย์ตัวนี้ดีมาก รับรู้ทั้งหมด ทั้งหู จมูก ลิ้น กาย ใจ อันนี้อาหารอร่อย เพลงเพราะ อาทิตย์คือดวงตานำวิถีชีวิต วิญญาณที่ปราศจากรสชาติของอะไรต่าง ๆ  ถ้าเรายังหลงนามรูปอยู่  อายตนะแก่กล้ามาก ก็จะส่งไปที่ใจทำให้เกิดนามรูป เกิดตัวรับรู้ เกิดสังขาร เกิดอวิชชาขึ้น แต่ถ้าเราสามารถดับได้ ก็จะไม่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น