- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
11 ก.ค. 2560
การเรียนรู้ศาสตร์เหล่านี้จำเป็นต้องศึกษาความเกี่ยวพันกับระบบในร่างกายของเราด้วย
นักปราชญ์ชาวจีนเชื่อว่า รอบๆ ตัวเรา มีกระแสพลังงานที่วิ่งรอบๆ กระจายเต็มไปหมด ไม่ใช่เฉพาะนักปราชญ์จีนเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ มีการค้นพบว่าจะมีกระแสบางสิ่งบางอย่างวิ่งกระจายอยู่ทั่วไปหมด พลังงานเหล่านี้จะมีการไหลไปสู่กระแสแม่เหล็กไฟฟ้าของโลก นี้เป็นการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ ทางจีนเรียกพลังงานนี้ว่า "ชี่" ส่วนในประเทศอินเดียจะเรียก "ปราณ"
กระแสของชี่จะไหลเหมือนกระแสเลือดภายในร่างกาย บริเวณที่สะสมอยู่มาก เราเรียกว่า จักระ (จักร + ราศี มีความหมายเดียวกันกับจักรราศี คือ การหมุนเวียนเป็นวงกลม) กระแสเหล่านั้นจะมีมากที่สุดคือ บริเวณศีรษะ สมองส่วนกลาง บริเวณต่อมใต้สมอง บริเวณเหล่านี้จะมีชี่มากที่สุด มีการหมุนเวียนมากที่สุด ทำให้สมองของเราทำงานหนัก การใช้พลังงานตรงส่วนนี้จะมากที่สุด ลำคอ หัวใจ กระเพาะอาหาร สะดือ ลงมาจนกระทั่งถึงอวัยวะสืบพันธุ์ คือเป็นเส้นตรงลงมา นั่นคือ "ชี่" ที่วิ่งมาในร่างกายของคนเรา จากจุดศูนย์กลางหลัก ๆ ในร่างกายของคนเราทั้ง ๗ จุด ก็แตกแขนงออกเป็น ๑๔ สายในร่างกายของเรา
ระบบเลือดและชี่เหล่านี้เป็นหลักการแพทย์ของจีนโดยเบื้องต้น หลอดเลือดภายในร่างกายตามทางการแพทย์เราจะทราบกันอยู่แล้วว่า ทำหน้าที่คอยส่งอ๊อกซิเจน อาหารต่าง ๆ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่และวิตามินไปสู่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา ถ้าอาหารการกินสมบูรณ์ ความคิดของเราจะเกิดมีกระแสความคิดต่าง ๆ ในเชิงสร้างสรรค์ อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ จะกระจายไปทั่วร่างกายด้วย สืบเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ เมื่อชี่เหล่านี้มีความอุดมสมบูรณ์ ชี่เหล่านี้ก็จะขึ้นไปสู่สมองเพื่อก่อกำเนิดพลังงานทางความคิด ความสร้างสรรค์ในสิ่งต่าง ๆ ความมีชีวิตต่าง ๆ สามารถที่จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย เกิดจากอาหารที่มีประโยชน์
บางทีเราอาจจะมีความรู้สึกว่า บางครั้งเราเกิดความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่เราทานอาหารไปได้ช่วงหนึ่ง เป็นความรู้สึกใหม่ ๆ เป็นความรู้สึกที่คิดได้ คิดออก หลังจากที่เรากินอิ่มนอนหลับ พักผ่อนอย่างเพียงพอ เราก็จะเกิดความรู้สึกใหม่ ๆ ขึ้นมา ปลอดโปร่ง หรือบางทีอาจจะเปลี่ยนแปลงนิสัยตนเอง สิ่งเหล่านี้เกี่ยวพันกับกระแสภายนอกที่วิ่งวนอยู่ภายนอกร่างกาย ที่เรียกว่าสิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศ แล้ววิ่งเข้าสู่สมองเข้าสู่ ๗ จุดสำคัญในร่างกายแล้วกระจายไปทั่วร่าง สัมพันธ์กันทั้งหมด ฮวงจุ้ยเป็นเสมือนร่างกายเรา เป็นความลึกซึ้งของธรรมชาติ คนที่ศึกษาวิชาฮวงจุ้ยเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง จะเข้าถึงวิชาการแพทย์ จะมีความเข้าใจว่าการไหลเวียนของกระแสชี่ เมื่อมันมีความผิดปกติในรอบ ๆ ด้าน รวมถึงอาหาร อากาศที่เราหายใจเข้าไป จะทำให้เกิดสภาวะอารมณ์ของตัวเองนี้เปลี่ยนแปลงไป ที่เรียกว่า นิสัยใจคอไปถึงกัน รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นี้ด้วย
นักวิชาการหลายท่าน ปัจจุบันหันมาศึกษาถึงวิธีการที่จะใช้กระแสชี่ที่ไหลเวียนในร่างกายของคนเราให้เกิดประโยชน์ คือการปรับกระแสไฟฟ้า ปรับกระแสการหมุนเวียนในร่างกาย ซึ่งทางการแพทย์ของจีนมีการค้นคว้ากันอยู่แล้ว ลักษณะเหล่านี้หากเราสามารถนำมาฝึกตนเอง ให้นึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในทางที่ดี ในหลักของจีนโบราณ ให้นึกถึงตัวเองในด้านดี เชื่อมั่นและภูมิใจในตนเอง รู้จักการวางแผนชีวิตให้เหมาะสม รู้จักแบ่งปันความรักให้ผู้อื่น จะทำให้กระแสชี่ที่อยู่ในร่างกายของเรามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
นี่คือเข้าหลักในการปฏิบัติธรรม เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วร่างกายจะปรับกระแสชี่ที่ดีภายในตัว แล้วกระแสชี่นี้ก็จะกระจายออกไปสู่สภาพแวดล้อมด้วย เหมือนกับการปรับสภาพแวดล้อมหรือทำเลให้ดี เพื่อให้กระแสที่ดีนั้นเข้าถึงสู่จิตใจ เข้าสู่ตัวเรา ให้ตัวเรานั้นดี แต่ถ้าหากเราปรับที่ตัวเรา แล้วให้มันกระจายออกไปสู่ภายนอก หรือสิ่งแวดล้อมภายนอก เรียกว่าเป็นการปรับจากภายในออกสู่ภายนอก ที่เราบอกว่า ทำเลร้ายไม่ทำลายคนดี ก็มาจากหลักการตรงนี้ นักวิชาการชาวจีนหลายท่านในปัจจุบัน สามารถอธิบายได้ว่า ผู้ป่วยหลายคนที่มีความเชื่อมั่นว่าตัวเองจะหายเจ็บป่วยจากโรคที่เป็นอยู่ ก็สามารถที่จะหายป่วยได้ โดยนัยเดียวกันนี้ เพราะว่าจะเป็นลักษณะที่ว่าฮวงจุ้ยมีผลต่อบุคคล บุคคลก็มีผลกับสภาพแวดล้อมเหมือนกัน
การปรับนิสัย หลักของทางการแพทย์เขาได้ค้นคว้ากันมานานแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือความคิดและอารมณ์ของเรามีผลกระทบต่อการไหลเวียนของกระแสชี่ ในขณะที่กระแสชี่มีผลต่อเนื้อเยื่อภายในร่างกายของเรา นอกจากนี้ ตัวของเซลเนื้อเยื่อเองก็ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของกระแสชี่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ความคิดของคนเราเปลี่ยนแปลงไปด้วย การควบคุมการไหลเวียนของกระแสต่าง ๆ ภายในร่างกายที่ดีที่สุดคือการนั่งสมาธิ กระแสชี่ไหลเวียนของระบบเลือดจะกระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้ความคิดของเราปลอดโปร่ง เกิดปัญญาขึ้น คนที่ทำสมาธิได้ดี ชีพจรจะเต้นได้เป็นระบบ สม่ำเสมอ สามารถนำมาพิสูจน์หรือตรวจเช็คในทางการแพทย์ได้ เมื่อตรวจระบบการเต้นของหัวใจจะเห็นเป็นคลื่นหัวใจที่ดีมาก เป็นคลื่นที่สมบูรณ์ที่สุด