ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

 

การจัดหิ้งพระ
10 ส.ค. 2554

 

โดย...ษณอนงค์ คำแสนหวี(อาจารย์แอน)

 

 

  อุทเทสิกเจดีย์, การจัดห้องพระ, ฮวงจุ้ยห้องพระ, พระโพธิสัตว์, พระอัครสาวก      

 

เรื่องการจัดหิ้งพระ ถ้าพูดถึงไม่มีปัญหาแต่ก็มีปัญหานะคะ  เพราะทุกครั้งที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนหรือไปตรวจดูทำเล ก็จะมีเรื่องของหิ้งพระเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ 

 

จริงๆเราต้องท้าวความความเป็นพุทธศาสนิกชนของเราก่อน 

 

ในพุทธวัจนะที่ได้ตรัสกับพระอานนท์ พระพุทธรูปถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ 

 

อุทเทสิกเจดีย์ที่เป็นพระพุทธรูปเกิดขึ้นหลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้วเกือบ  300 กว่าปี สมัยนั้น ในช่วงแรกไม่มีใครกล้าปั้นพระพักตรของพระองค์  เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพเพราะอาจจะไม่ได้สัพปุริสสลักษณะบุรุษ  ก็เลยสร้างเป็นเจดีย์หรือที่เรียกกันว่าบริโภคเจดีย์  และธรรมะเจดีย์  ส่วนธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุก็ยังไม่มีในขณะนั้นเพราะพระพุทธองค์ยังไม่ได้ปรินิพพาน 

 

บริโภคเจดีย์ได้แก่เจดีย์ที่บรรจุสิ่งของที่พระพุทธองค์ทรงใช้   ก็ยังไม่ได้เกิดอีกเหมือนกันในสมัยพระพุทธองค์ 

 

แต่มีธรรมเจดีย์ เพราะคือ การบันทึกคำสอนของพระพุทธองค์ 

 

ดังนั้น ที่เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล คือ อุทเทสิกเจดีย์  เกิดขึ้นครั้งแรกก็คือตอนที่พระพุทธองค์เสด็จออกจากเชตวันที่เมืองสาวัตถีไปแล้ว แต่ประชาชนไม่ทราบเพราะสมัยนั้นไม่มีเครื่องมือสื่อสารอย่างโทรศัพท์ ที่จะบอกกล่าวกัน เมื่อมาแล้ว พระพุทธองค์ไม่ประทับอยู่ ประชาชนก็เลยนำเครื่องสักการะไปวางไว้ที่ประตูคันธกุฏีแทน 

 

พระอานน์เห็นว่าไม่สมควรที่วางเครื่องสักการะพระพุทธองค์ไว้กับพื้นประตูอย่างนั้น จึงกราบทูลถามพระพุทธองค์   พระพุทธองค์ทรงตรัสถึง อุทเทสิกเจดีย์
 

ดังนั้น พระอานนท์จึงขอให้พระโมคัลลานะไปนำหน่อต้นศรีมหาโพธิ์ต้นที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ที่พุทธคยา มาปลูกไว้ที่เชตวัน  ตอนนั้นก็มีพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นประธานในการปลูก จัดว่าเป็นงานใหญ่ในสมัยนั้น  พระเจ้าปเสนทิแม้ว่าจะเป็นกษัตริย์ ก็ยังรู้การควรการไม่ควร ทรงเห็นว่าท่านอณาถบินฑิกะเป็นผู้ที่อุปถัมภ์ในพุทธศาสนานี้ มากด้วยการสร้างเชตวันมหาวิหาร จึงควรจะให้อณาถบินฑิกะเป็นประธานจะดีกว่า 

 

แล้วต้นโพธิ์นั้นได้เรียกว่าอนันตโพธิ์ ถือเป็นอุทเทสิกเจดีย์ 

 

หลังจากนั้นต่อมาอีก  200-300 กว่าปีให้หลัง ก็เป็นตามพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ก่อนแล้ว  ว่าที่เป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้าให้ถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ ซึ่งหมายถึงพระพุทธรูป   

 

พระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้ปั้นเป็นครั้งแรก ก็คือ พระพุทธรูปแบบคันธาระ ปางประทานพรและปางห้ามสมุทรในเวลาต่อมา   เป็นลักษณะพระพุทธรูปสมัยคันธารราฐ 

 

เมื่อเราฟังประวัติอย่างนี้แล้ว หากเรามีพระพุทธรูปในบ้าน เราควรจะจัดวางแบบไหน 

 

 

 อุทเทสิกเจดีย์, การจัดห้องพระ, ฮวงจุ้ยห้องพระ, พระโพธิสัตว์, พระอัครสาวก

 

ก่อนอื่น เราต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้ง ควรจะต้องคิดว่า พระพุทธรูปประทับอยู่ที่ใดเสมือนพระพุทธเจ้าประทับอยู่ตรงนั้น  ถ้าเราคิดอย่างนี้ได้แล้ว เราก็จะวางพระถูกทันที คือ วางในที่สูงไม่ใช่ที่ต่ำ ไม่เหยียบอยู่เหนือเศียรพระ  เพราะทุกหนทุกแห่งที่เราวางคืออุทเทสิกเจดีย์ เหมือนเราวางเจดีย์อยู่ แล้วไม่ใช่เป็นพระบรมธาตุ หากแต่เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าเลยทีเดียว  

 

 อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอนดังนั้น ควรวางไว้จุดที่สูงที่สุดของบ้าน  ถ้าบ้านเรามีสองชั้นก็ต้องวางชั้นสอง  บ้านเรามีชั้นสามเราก็ต้องวางชั้นสาม  และต้องไม่หันปลายเท้าชี้ไปทางห้องพระด้วย

 

และอีกกรณีหนึ่ง การที่มีหิ้งพระอยู่ชั้นล่าง นั่นก็หมายถึงว่าชั้นบนที่อยู่เหนือหิ้งพระ ต้องมีตู้มีเฟอร์นิเจอร์วาง เพื่อกันคนไม่ให้เหยียบไปบนเศียรพระ 

 

จากสถานที่ตั้งพระ ต่อมาก็คือ วิธีการตั้ง หากจะเอาตามหลักโบราณก็ค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่สักหน่อย นั่นก็คือ หลักโบราณจะถือว่า ถ้าพระพุทธรูปหันไปทางทิศใดให้ถือว่าทิศนั้นเป็นตะวันออกเสมอ เพราะวันที่พุทธองค์ทรงตรัสรู้นั้นหันหน้าไปทางทิศตะวันออก  แม้กระทั่งทรงปรินิพพานก็หันไปทางตะวันออกอีกเหมือนกัน 

 

ดังนั้น หน้าพระพักตร์พระพุทธรูปหันหน้าไปทางใด ให้ถือเป็นทิศตะวันออกเสมอ  เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่านี่คือทิศตะวันตกนะ ตั้งไม่ได้  คือ  เรามาเข้าใจกันเองว่าอย่าหันไปทางตะวันตก  หรือบางคนก็ไม่ได้ถือเรื่องทิศ แต่สนใจว่าชื่อ  คิดว่า ตะวันตก หมายถึง ตก  จริงๆแล้วพระอาทิตย์ตกคือพักผ่อน ไหว้พระทำสมาธิ เราต้องนึกถึงเหตุผลตามความเป็นจริง  พระพุทธองค์ก็ทรงสอนไว้อยู่แล้วในหลักของการลามสูตร  คือ ทำอะไรเป็นเหตุเป็นผล

 

หลังจากรู้ที่ตั้งอันเหมาะสมแล้ว เราจะต้องดูวิธีการตั้งที่เหมาะสมตามหลักโบราณ  คือ  การตั้งพระประธานให้ยึดหลักองค์ที่ใหญ่ที่สุด  ทางด้านขวาของพระประธานควรเป็นพระพุทธรูปทั้งหมด และเบื้องซ้ายจะเป็นพระเกจิอาจารย์หรือพระโพธิสัตว์หรือพุทธสาวก  เช่น พระสีวลี 

 

 อุทเทสิกเจดีย์, การจัดห้องพระ, ฮวงจุ้ยห้องพระ, พระโพธิสัตว์, พระอัครสาวกทีนี้ ถ้าเกิดโต๊ะหมู่ของเรามีจำนวนไม่สมดุลระหว่างขวากับซ้าย  เราสามารถวางบนกับล่าง  ก็คือพระพุทธรูปอยู่ชั้นบน  ชั้นล่างลงมาเป็นพระอัครสาวก และพระอาจารย์  ส่วนเทพหรือว่าพระโพธิสัตว์ควรจะตั้งด้านซ้าย หรือไม่ก็แยกหิ้งออกต่างหากทางด้านซ้าย  ถ้าสามารถแยกหิ้งได้ก็ควรจะแยก  แต่ถ้าจำเป็นจะต้องตั้งอยู่ในที่เดียวกันจะต้องตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของพระประธานและอยู่ชั้นล่างสุด คืออาจจะเสมอพระอาจารย์ได้ถ้าหิ้งไม่พอ แต่ต้องอยู่ฝั่งซ้ายและล่างสุด

 

ถ้าสมมติว่าเราอยากจะติดรูปบรรพบุรุษ เราก็สามารถติดได้ในห้องพระ แต่ว่าต้องในตำแหน่งที่เหมาะสม คือติดที่ผนังด้านซ้ายและขวา อย่าติดด้านหลังพระประธาน  อย่าติดเหนือองค์พระประธาน แล้วกรอบรูปของรูปบรรพบุรุษจะต้องอยู่ต่ำกว่าองค์พระประธาน 

 

 

 อุทเทสิกเจดีย์, การจัดห้องพระ, ฮวงจุ้ยห้องพระ, พระโพธิสัตว์, พระอัครสาวกเคยเห็นบางที่มีหิ้งอยู่หิ้งเดียว แต่มีทั้งรูปปั้นพระโพธิสัตว์ ทั้งรูปปั้นนางกวักที่ถือว่าเป็นบุคคลที่เป็นมงคล สำหรับพระโพธิสัตว์ก็ตั้งตามที่บอกมาข้างต้น ส่วนนางกวักนั้นควรจะมีหิ้งแยกออกมา

 

ถ้าเรามีรูปภาพพระอาจารย์อยู่ ก็อาจจะติดตรงผนังซ้ายขวาของโต๊ะหมู่ได้ เพียงแต่อย่าให้กรอบสูงกว่าพระประธาน แต่ถ้าเป็นภาพพระพุทธรูปสามารถติดตรงผนังด้านหลังของพระประธานได้เลย

 

การที่ตั้งผิดลำดับขั้น ถือว่าเป็นการปรามาส จะทำให้เราจะถูกยกตนข่มท่านเสมอๆ จะอยู่ในสถานภาพที่ต่ำกว่าคนอื่นและถูกกดดันเสมอ  เหมือนกับเราทำกรรมเอาไว้ตรงนี้  จัดเป็นการปรามาสด้วยกายกรรม   พระรัตนตรัย คือที่พึ่งอันสูงสุด ให้ท่องคำนี้แล้วเราจะวางถูก

 

ใครก็ตามที่จัดห้องพระเป็น คนคนนั้นจะมีชีวิตที่เจริญ เพราะว่าไม่ละเมิดในกาย วาจาและใจ แต่ถ้าเกิดว่าเราจัดไม่ถูกเราก็จะละเมิดทั้งกาย  ใจ  แล้วก็จะไปวาจาในที่สุด เราก็จะไม่เป็นที่รักของใคร ฟ้าก็ไม่เปิดให้ เพราะเป็นการละเมิดพระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่งสูงสุด 

 

ข้อสำคัญ ต้องทำความสะอาดหิ้งพระ ควรจะจัดดอกไม้ใหม่ให้สดสะอาด ถ้าพวงมาลัยหรือดอกไม้เหี่ยวก็ทิ้งเลย

 

เคยมีประวัติพระอรหันต์องค์หนึ่งได้รับดอกไม้มาและเพ่งดอกไม้  พอดอกไม้เหี่ยวแล้วก็บรรลุเลย 

 

ดังนั้นการทิ้งดอกไม้ที่เหี่ยวนอกจากจะทำให้ห้องพระดูสะอาดตาแล้ว ยังถือว่าเป็นการทิ้งแล้วได้ธรรมอีกด้วย เพราะเมื่อวานดอกไม้นี้ยังสดแต่วันนี้เหี่ยวแล้ว เป็นการเข้าใจในกฏอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อวานนี้มี แต่วันนี้กลับไม่มีแล้ว อย่างนี้เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ไม่จำเป็นว่าห้องพระจะต้องเข้าไปแล้วต้องมืดทึม เพื่อให้เกิดความขลัง ห้องพระต้องทำให้สว่างสดใส  ถ้าพระรัตนตรัยอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม ชีวิตเราก็จะได้อยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นมงคลกับชีวิต  เพราะเราไม่ได้บูชาบุคคลที่ควรบูชา ซึ่งมีพระรัตนตรัย และพ่อแม่ครูบาอาจารย์  

 

และพระรัตนตรัยนี้สูงสุดแล้ว หากบูชาไม่เป็นไม่ถูก นึกแต่ว่าสกปรกไม่เป็นไร  ถวายน้ำถวายส้มอย่างเดียวก็พอแล้ว แต่แบบนี้ไม่ใช่ จัดว่าเป็นอามิสบูชาเท่านั้น

 

บางบ้านพื้นที่เขาค่อนข้างแคบและห้องพระกลายเป็นห้องเก็บของ ลองนึกดู เรากล้าเอาขยะไปฝากพระพุทธเจ้าหรือเปล่า ถ้าไม่กล้า ก็ไม่ควรเก็บของไว้ที่ห้องพระเลย แต่ถ้ามันเนื้อที่จำกัดจริงๆ ก็ควรจะกั้นห้องหรือว่าแบ่งเป็นโซนให้เรียบร้อย  เช่น  ไว้เก็บหนังสือ  เป็นต้น  เพราะว่าไปบ้านใครที่ไรก็ต้องจัดห้องพระก่อนทุกครั้ง เรียกว่า ควรจัดนำความมงคลเข้าบ้านก่อน   คนจะมีคุณธรรมแต่กลับจัดห้องพระไม่เป็นอย่างนี้ก็ไม่ใช่ 

 

แต่ถ้าบ้านที่ไม่มีห้องพระเลยก็ไม่เป็นไร  แต่ควรจะมีพระที่ใจ  แขวนพระ  ทำบุญ ใส่บาตร  สังฆทาน  วิหารทาน