- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
1 พ.ค. 2555
โดย..ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)
การมุงหลังคาในสมัยก่อนมักใช้วัสดุจากธรรมชาติ บ้างก็มุงด้วยใบไม้ หรือกระเบื้องดินเผาธรรมดาอย่างในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ด้วยเหตุนี้ ในทางฮวงจุ้ยจึงไม่ได้บัญญัติในเรื่องของกระเบื้องมุงหลังคาไว้อย่างชัดเจน แต่เราใช้การแปรรูปของสรรพสิ่งมาพิจารณา เช่น ทางน้ำก็กลายเป็นทางถนนในปัจจุบัน หรือว่าการแสดงสัญลักษณ์ในเชิงธาตุที่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน เช่น การเห็นสีแดง สีชมพู จะให้ความรู้สึกเหมือนเราเห็นไฟ การเห็นสีเขียวสะอาดตา จะให้ความรู้สึกเหมือนการเห็นไม้ แต่ถ้าเราเห็นสีน้ำตาลเราจะให้ความรู้สึกว่านึกถึงธาตุดิน หรือว่าสีฟ้าเย็นตาเย็นใจเหมือนน้ำเลยนั่นคือธาตุน้ำ ในส่วนของธาตุทองที่จะมาใช้เป็นสีของหลังคานั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นกันนอกจากจะเป็นใช้รูปทรงของธาตุทองมากกว่าใช้สีของธาตุทอง
เมื่อพูดถึงรูปทรง ก็จะขออธิบายว่า ถ้ารูปทรงปลายแหลมก็จะถือว่าเป็นรูปทรงธาตุไฟ แต่ถ้าเกิดเป็นรูปทรงปกติทั่วๆ ไปก็จะเป็นรูปทรงของโลกหรือธาตุดิน
ทีนี้ ก่อนที่จะไปดูว่าหลังคาควรจะเป็นสีอะไร ก็ต้องมาดูรูปทรงของหลังคาก่อน เพื่อไม่ให้รูปทรงกับสี พิฆาตกัน เช่น บ้านรูปทรงยาวทางขวางจะถือว่าเป็นรูปทรงในเชิงสัญลักษณ์ของธาตุไม้ และเราก็มีหลังคาสีแดงของธาตุไฟ แบบนี้ไม้ก็ไหม้ไฟ บ้านหลังนั้นก็ขาดความร่มเย็นเป็นสุข มีแต่เรื่องร้อน
แต่ถ้าหากว่าเป็นธาตุไม้กับธาตุดิน แม้ 2 ธาตุนี้จะพิฆาตกันแต่ว่าต้นไม้จะเจริญเติบโตเมื่อดูดดิน เพราะฉะนั้นบ้านที่เป็นแนวขวาง หลังคาก็ควรจะออกมาเป็นสีเอิร์ธโทนมากกว่าจะเป็นสีอื่น
หากว่าเป็นบ้านแนวยาวเป็นธาตุไม้อย่างนั้น แล้วเราก็ใส่หลังคาเป็นสีเขียว ก็จะเป็นธาตุไม้แท้ๆที่อ่อนไหว อย่างนั้นเหมาะที่จะเป็นหลังคาของกระทรวง พิพิธภัณฑ์ สถานที่ราชการ
มีร้านอาหารอยู่แห่งหนึ่งเป็นแนวยาวแบบธาตุไม้และหลังคาเขาเป็นสีส้มอันนี้ทำได้ เพราะร้านอาหารต้องการไฟเผาไหม้ตลอดเวลา ดังนั้น สีของกระเบื้องหลังคาจึงขึ้นอยู่กับอาชีพด้วย
ย้อนกลับมาที่บ้าน ถ้าหลังคาบ้านเป็นสีน้ำตาล แล้วในหมู่บ้านนั้นเป็นสีน้ำตาลหมด อย่างนี้ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่ถ้าเกิดเราอ่านบทความนี้แล้ว เกิดอยากมุงหลังคาสีแดง คราวนี้เวลาฟ้าลง จะลงที่เดียว เขาเรียกว่า ทำเลฟ้าฝ่า คำว่า ทำเลฟ้าฝ่า แปลว่า เภทภัยจะมาถึงเราก่อน ซึ่งความหมายจริงๆ ของทำเลฟ้าฝ่าก็คือ เวลาเราออกไปที่ไหน ก็ดูเหมือนจะมีเรื่องเข้ามาหาตัวอยู่เรื่อย เคยสังเกตไหมว่าบางคนไปไหน มักจะดึงเรื่องเข้ามาหาตัวตลอดเลย เพราะเขาอาจจะมีที่นั่ง ที่นอน ที่บ้าน หรือที่ทำงานเป็นทำเลฟ้าฝ่าก็ได้ จึงทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา
แต่ถ้าในแถบนั้นเป็นบ้านหลากหลาย อย่างบ้านในชนบท ที่อยู่ท่ามกลางพุ่มไม้ร่มรื่น ป่าโปร่ง แล้วหลังคาบ้านเป็นสีฟ้า อย่างนี้ถือว่าเข้ากัน ทำให้บ้านหลังนั้นร่มเย็นเป็นสุข
มีบ้านอยู่หลังหนึ่งทำกิจการขายปุ๋ย วัตถุประสงค์ของปุ๋ยคือทำให้ต้นไม้เป็น เราใช้หลังคาสีแดงไม่ได้ เราควรจะใช้หลังคาสีเขียว เหมือนกันกับบ้านที่อยู่ชายทะเล ริมน้ำ จะไม่แนะนำให้ทำหลังคาสีแดง เพราะหมายถึงกุ้งที่สุกแล้ว คือ พูดง่ายๆโรงแรมรีสอร์ทอันนั้นสุกแล้วไม่มีคนใช้ หรือว่ารอกินอย่างเดียว แต่ต้องใช้สีเขียวที่ให้ความหมายของ เป็น ตลอด
สีกระเบื้องหลังคาที่นิยมมากที่สุดที่เห็น คือสีแดงออกส้ม ถ้าสมมติว่าเป็นหมู่บ้านเป็นป่าทั้งหมด แล้วมีหลังคาสีแดงทั้งหมู่บ้าน ถือว่าเป็นธาตุไม้กับไฟ หากเราเกิดสงสัยว่าหมู่บ้านนี้อยู่แล้วจะร่มเย็นเป็นสุขไหม ก็ให้ปลูกไม้ดอกเข้าไปในบ้าน ให้เป็นตัวเชื่อม การใส่ไม้ดอกแล้วหมู่บ้านนั้นจะมีชีวิตชีวาทันที
ในขณะเดียวกัน ถ้าหลังคาสีเขียวและที่นั้นๆมีต้นไม้เยอะด้วย ก็ต้องใส่น้ำ แล้วก็จะเกิดความร่มเย็น ดังนั้น การที่บอกว่าหลังคาบ้านควรมีสีอะไรนั้น ก็จะต้องมีองค์ประกอบด้วย เพราะฉะนั้น หากว่าเป็นหมู่บ้านจัดสรรอย่าพะวงเรื่องหลังคา เพียงแต่อย่าให้แตกต่างจากบ้านอื่น
แต่ถ้าเป็นบ้านที่ต่างคนต่างปลูกในที่ของตน อันนี้ต้องดูทำเลและดวงชะตาประกอบ ซึ่งอย่างนี้เคยไปดูที่เชียงใหม่ แต่ละหลังเขาให้ปลูกเองตามใจชอบ ปรากฏว่ามีหลังคาหมดทุกสีเลยค่ะ หลากหลายมากเป็นสีลูกกวาด ส่วนสำหรับบ้านหลังที่เขาเชิญไป เขาถามว่า อาจารย์แอนขา จะเอาหลังคาสีอะไรดีคะ ก็ออกไปดูบ้านหลังอื่นเป็นสีลูกกวาด เลยแนะนำให้เขาเอาสีดิน เพราะ บ้านทุกหลังต้องอาศัยดินหมด คือ ดินถือว่าเป็นสีที่เป็นกลาง สีดินก็คือสีออกน้ำตาลทำนองนั้น
สีดินนี้สามารถนำมาใช้ได้เกือบทุกอย่าง ดินเป็นหลักมีเยอะที่สุดและไม่ทำร้ายใคร แต่เราอย่าไปทำลายธาตุดิน เพราะทำลายดินนี่ถือว่าร้าย
ถ้าหากว่า เกิดมีคนที่ในดวงชะตามีธาตุดินเยอะ จะเป็นอย่างไร เราก็นึกถึงธาตุดินที่เยอะเกินไป ปลูกบ้านได้ ดินแน่น และไม่โยกไม่คลอน ซึ่งก็หมายถึงความดื้อของคนได้ด้วย เพราะถ้าดินที่แรงจริงๆ มันแข็งเป็นดินศิลาแลง คือ จะเป็นคนกระด้าง เพราะฉะนั้น หากมีธาตุดินในตัวมากเกินไป และมาอยู่บ้านที่เป็นธาตุดินอีก คือ หลังคาครอบ เหมือนเราอยู่ภายใต้ธาตุดินอีกเหมือนกัน เราก็จะกลายเป็นภูเขาปักหลัก เราไม่สนใจใคร เราจะทำอะไรตามใจชอบ เราก็จะดื้อมากขึ้น ก็ต้องแก้ด้วยมีตำแหน่งน้ำทางทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกเฉียงใต้ และปลูกต้นไม้เยอะๆ อย่างนี้เรียกว่าเป็นการสลายแต่ว่าไม่ทำลายธาตุดิน แค่ปรับความสมดุลของธาตุดิน
ถ้าเจ้าของบ้านหลังนี้ จะเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นสีธาตุน้ำ เช่น สีดำ ด้วยความคิดที่ว่า จะทำให้ธาตุดินเกิดความสมดุล แม้จะช่วย เพียงแต่สีนี้จะมืดไป ถ้าหากว่าดินกับน้ำผสมกัน มันจะกลายเป็นหยินทันที ถ้าในหลักวิชาที่ละเอียดลึกซึ้งลงไป ดินผสมกับน้ำ คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูหนาว ความหมายก็คือ ความเป็นหยินอย่างรุนแรงเลยค่ะ ทำให้ในบ้านเกิดความเย็นขึ้น แม้แต่ถ้าเปิดแอร์ก็จะเย็นเร็วผิดปกติ นั่นคือสภาวะหยิน ทำให้เราหงุดหงิด เสมือนไล่เราออกจากบ้านไปหาที่ที่มันอบอุ่นกว่า
นอกจากเรื่องสี เรื่องรูปทรงของบ้านแล้ว เรื่องรูปทรงของหลังคาก็มีผลด้วย ถ้าสมมติว่ารูปทรงของหลังคาแหลมเป็นไฟก็อย่างที่บอกว่าใช้กระเบื้องสีส้มดี สีน้ำตาลดี
ถ้าหลังคาทรงกลม แล้วมีแสงส่องลงมาจากด้านบน อย่างนี้ถือว่าเป็นหลังคาธาตุทอง ใช้กระเบื้องสีน้ำตาลดี แต่ไม่ควรใช้สีเขียว
แต่ถ้าเป็นบ้านติดน้ำ ใช้หลังคาสีอะไรก็ได้เพราะมีธาตุน้ำเป็นตัวเชื่อมอยู่แล้ว
สรุปแล้ว ในเรื่องของการมุงหลังคานั้น จะมีเคล็ดเล็กๆน้อยๆไม่ได้บัญญัติเป็นกฎ แต่จะเป็นการแปรรูปแล้วนำมาแปลความหมายอีกทีหนึ่ง