ความรู้เกี่ยวกับโหงวเฮ้ง

 

โหงวเฮ้งแมงมุม
21 มิ.ย. 2558

 

 

แกะรอยนิสัยคน จากแมงมุม (สื่อธรรมชาติข้างๆตัว)



เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณเดือนพ.ย. 2551 ผู้เขียนพบว่าเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง มักทำหน้าตาออกจะประหลาด   เมื่อต้องมีหน้าที่มาชี้แจงเรื่องงานในหน้าที่รับผิดชอบในห้องประชุม สีหน้าแสดงออกถึงอารมณ์ที่ไม่มีความสุขอย่างชัดเจน และขมวดหัวคิ้วเข้าหากันตั้งแต่ยังไม่เริ่มประชุม แต่พอเริ่มคุยไปได้เล็กน้อย หัวคิ้วก็ยิ่งย่นเข้าหากันมากขึ้น ทำให้หน้าตาดูประหลาดมากยิ่งขึ้น เราผู้มีความช่างสังเกตอยู่แล้วก็คิด คิด คิด ว่าเอ…หน้าเขาเหมือนอะไรสักอย่าง แต่นึกไม่ออกว่าเหมือนอะไรในตอนแรก ๆ ที่คิด

 


หลังจากนั้นก็ลืม ไปเลย แต่ก็ยังไม่วายจะได้พบหน้าตาแบบเดิมมาให้ต้องคิดอีก จนเช้าวันหนึ่งขณะผู้เขียนตื่นขึ้นมาตอนเช้า ถือแปรงสีฟันกำลังตั้งท่าจะแปรงฟัน ก็พลันนึกถึงหน้าประหลาดของเพื่อนร่วมงานคนนั้นขึ้นมาได้  แล้วใจก็รำพึงว่า หน้าเหมือนอะไรหนอ ?

 

แกะรอยนิสัยคน จากแมงมุม (สื่อธรรมชาติข้างๆตัว)

 

ทันใดนั้นเอง ก็มีคำตอบผุดขึ้นมาในใจว่า “เหมือนแมงมุม” นึกดีใจเหมือนว่าคิดอะไรออก จึงไปเล่าให้สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมคนอื่นซึ่งอยู่ในระดับบริหารทราบว่า เพื่อนคนนั้นเขาหน้าเหมือนแมงมุม และทุกคนต่างก็ลงมติเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์ว่าเหมือนจริง

 


จากนั้นเราก็เลยคิดต่อว่า ธรรมชาติของแมงมุมเขาเป็นอย่างไรหนอ เพื่อจะได้อ่านเขาออกว่า นิสัยของเขาเป็นอย่างไร อันเป็นเคล็ดการดูโหงวเฮ้งภายในตัวตนของคนที่เคยใช้ได้ผลเสมอมา

 


เมื่อเราพูดถึงแมงมุม ลักษณะเด่นที่ทุกคนต้องนึกได้ก็คือ “ใยแมงมุม” ซึ่งใยของแมงมุมจะมีศักยภาพมาก  สามารถสร้างอาณาเขตของตัวเองขึ้น และใครก็ตามที่ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง จะต้องกลายเป็นอาหารอันโอชะ ของเขาไป เพราะใยเป็นกับดักที่เหนียวแน่นมาก ที่ศัตรูหากหลงเข้ามาติดแล้วไม่มีทางรอดแน่นอน  อาหารของเขาคือตัวหนอน เพลี้ยอ่อน ผีเสื้อ แมลงวัน และเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง  ปากใช้ป้องกันตัวและฆ่าเหยื่อ โดยการใช้เขี้ยวพิษฆ่าเหยื่อหรือทำให้เป็นอัมพาต ดูดของเหลวจากเหยื่อเป็นอาหาร ใยแมงมุมเป็นกับดัก

 

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน

 

ธรรมชาติของใยแมงมุมมีความเหนียวแม้จะบาง มาก เมื่อเหยื่อมาติดใย ใยจะสั่นสะเทือนทำให้แมงมุมรู้ว่ามีเหยื่อมาติดแล้ว ดังนั้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถส่งถ่ายพลังงานจากจุดสัมผัสไปทั่วเส้นใยนี่เอง ในงานพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ หรืองานสวดมนต์พิธีตามวัด ถ้าเราสังเกต จะมีการวางสายสิญจน์ ล้อมเป็นตาข่ายอยู่เหนือศีรษะไปทั่วอาณาบริเวณพิธีกรรม ซึ่งสันนิษฐานว่า เอาพลังจากการสานตาข่ายเลียนแบบแมงมุม เพื่อเป็นเกราะป้องกันสิ่งอัปมงคลไม่ให้เข้ามาในบริเวณพิธีได้ และอีกทั้งเป็นการส่งถ่ายพลังจากพิธีกรรมมาถึงผู้เข้าร่วมพิธีได้อย่างทั่ว ถึงด้วย จึงเห็นได้ว่า ธรรมชาติของสรรพสิ่งที่แม้จะร้าย แต่ก็สามารถนำมาใช้ในทางที่เป็นคุณได้

 


มาดูเรื่องนิสัยพฤติกรรมของคนที่เราจะนำมาเกี่ยวโยงกัน เพื่อนคนนี้มีนิสัยที่ดูภายนอกอ่อนโยน สุภาพมาก เฉพาะเวลาที่ไม่มีความสุขเท่านั้นแหละ ที่หน้าตาแมงมุมจะออกอาการ หลักการวิชาการไม่หนักแน่น (แมงมุมไม่มีกระดูกสันหลัง) คล้อยตามได้แต่ห้ามแตะต้องเรื่องงานของเขา (คืออย่ามาถูกต้องโดนใยของเขานะ แม้โดยทางอ้อมก็รู้เรื่องได้รวดเร็ว เพราะเครือข่ายของเขามีไปทั่วบริษัท) ถ้าไปแตะโดนใย (งานที่เขาต้องรับผิดชอบ) จะออกอาการทันที หากไม่พอใจ จะใช้วาจารุนแรง อีกลับหลังจะกล่าวให้ร้ายรุนแรง (สมกับบอกว่าปากเป็นที่ป้องกันและทำร้ายศัตรู) ดังนั้น หากลูกน้องหรือมีใครมารายงานเรื่องอะไรก็ตามในอาณาเขตที่ตัวเองดูแล เขาจะรู้ได้รวดเร็วมาก การตรวจสอบที่จะเข้าถึงข้อมูลจึงทำได้ยาก เพราะหลักฐานจะถูกซ่อนหรือทำลายก่อนที่เราจะได้พบ
 


เมื่อเราทราบแล้วว่า ขณะที่เขาไม่รู้ตัวแล้วออกอาการ ทำให้เราทราบว่าเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในที่ทำงาน มีเครือข่ายที่เราไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหนบ้างมาก่อน (เพราะทำงานมานาน มีบริวารมาก) แต่พอรู้ว่าเขามีของวิเศษ คือเครือข่ายบริวารมากมายในแต่ละจุด เส้นใยแมงมุมก็เปรียบเหมือนบริวารที่ล้อมเป็นเครือข่าย เป็นเครื่องดักฟังที่ดีที่เขาจะได้รู้ข้อมูลเหมือนมีเครื่องดักฟังทั่วไปหมด ทำให้การตรวจสอบทำได้ยาก

 


การใช้คนให้ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเขามีเครือข่ายมาก ก็ควรจะเปลี่ยนวิธีการติดต่อประสานงานกับเขาเสียใหม่ คือเพื่อให้ได้ข่าวสารข้อมูลที่รวดเร็ว ก็ควรจะอาศัยเครือข่ายที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว มาเป็นสมบัติของบริษัทเสียเลย (ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งเอง) การกระจายข่าวให้ผู้บริหารทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รวดเร็วและทันควัน  แทนที่จะตำหนิเขา เราก็ส่งมอบงานเป็นผู้รายงานปัญหา ช่วยเขาคิดวิธีแก้ไข ส่งมอบงานให้เป็นผู้ติดตามการแก้ปัญหาแล้วรายงานโดยตรงน่าจะดีกว่า

 


ซึ่งก็ได้ผลดี แทนที่จะมีศัตรูเพิ่ม เราก็ได้มิตรเพิ่ม เขาสบายใจขึ้น ติดตามงานให้อย่างดี หากไม่มีอะไรก็อย่าไปแตะเขา หากรู้ถึงความผิดพลาด ก็ต้องเดินทางอ้อมให้เขาไปติดตามแก้ไข บริษัทฯก็ได้ใช้สิ่งวิเศษที่เขามีอยู่ให้เกิดประโยชน์และอย่างเป็นมิตรด้วย

 


ครั้นไปธุดงค์ที่วัดท่าซุง เมื่อ ธ.ค. 2551 ผลที่เราไปได้วิชาของแมงมุมมา ก็ได้มีโอกาสมาพบปะเจ้าของวิชาตัวจริงเข้าแล้ว คือไปธุดงค์คราวนี้ ผู้เขียนไปกับคุณพรทิพย์ และเราทั้ง 2 เลือกไปธุดงค์อยู่ในป่า (ห้าวหาญมากเลยเรา) เวลาออกจากที่พักก็เช้ามืด เข้าที่พักก็พลบค่ำ เข้าออกเต๊นท์ก็ต้องใช้ไฟฉาย มองอะไรก็ไม่ค่อยชัด จึงอาศัยการสวดบทเมตตัญจะฯ และบารมี 30 ทัศ ป้องกันตัว

 


และแล้วสิ่งที่ปรากฏกับเราก็คือ พลบค่ำของวันแรก มีแมงมุม 1 ตัวเข้ามาอยู่ในเต๊นท์ที่พำนักของเราคนเดียว ครั้นเห็นตัวก็ทำให้เราต้องนึกถึงว่า เราไปเนื่องกับเขาตั้งแต่ก่อนมาธุดงค์ ไปทำความรู้จักเขาด้วยการรับรู้นิสัย จึงถือว่าเราได้ไปสัมผัสภูมิของเขาเข้าแล้ว เขาก็มาให้เราเห็น ยังไม่รู้ว่ามาต้อนรับหรือมาต่อว่า ดีที่สุดคือต้องทำตามครูบาอาจารย์สอน เริ่มต้นยกมือขึ้นขออโหสิกรรม สวดแผ่เมตตา แล้วก็พูดขอเชิญเขาออกจากเต๊นท์โดยเขี่ยออกไป เรียบร้อยแล้วจึงปิดประตูเต้นท์ที่นอน ทำการสวดมนต์แผ่เมตตาตามกิจของผู้เข้าธุดงค์  จากนั้นก็นอนกำหนดไปจนหลับ

 


ถึงเช้า อันดับแรกลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองและแมงมุมตัวนั้น นอนด้วยกันในเต๊นท์ทั้งคืน ดีนะที่เขาไม่ได้รบกวนเราเลย จากนั้นก็ขอเชิญเขาออกไปจากเต๊นท์อีกรอบหนึ่งเป็นอันเสร็จการ

 


วันที่ 2 ของการมาธุดงค์ ตอนเย็นคุณแมงมุมเขามาให้เราเห็นอีก มาชักใยอยู่หน้าปากเต๊นท์ หลังจากพูดกับเขาแล้ว ก็เขี่ยเขาออกนอกเส้นทาง จากนั้นก็รีบเข้าเต๊นท์ ดูให้แน่ใจว่าไม่ได้ตามเราเข้ามาอีก ครั้งนี้เราก็เริ่มคิดมากแล้วซี ทำไมเขามาหาเราคนเดียวล่ะ เพราะคุณแมงมุมคงยังมีเรื่องติดค้างกับเราอยู่เป็นแน่ เราคงต้องทำอะไรบางอย่างเสียแล้วเพื่อเป็นการแก้ไข

 


เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เลยคุยกับคุณพรทิพย์เรื่องแมงมุมที่มาหาถึง 2 วัน คุยกันเรื่องที่เราเอาเขาไปคุยสนุกสนานว่า มีคนที่ทำงานหน้าเหมือนแมงมุม คุณพรทิพย์ก็บอกว่า แมงมุมเขาก็มีประโยขน์นะ เขามาชักใยอยู่ปากเต๊นท์เรา ก็ช่วยป้องกันยุงและแมลงมิให้มาเข้าเต๊นท์เราได้นะ หากมีใยแมงมุมอยู่ สัตว์อื่นๆ เขาก็ไม่กล้าเข้ามา เราต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าครั้งนี้เขามาดีนะ มาช่วยดูแลเต๊นท์ให้เรา (อาหารของเขา ก็จะได้ไม่มารบกวนเรา) เราก็เลยได้ประโยชน์ ไม่ต้องคิดมากอีกต่อไป เราควรขอบคุณเขาเสียด้วย ขออย่างเดียวไม่ต้องมานอนเป็นเพื่อนข้างในเต๊นท์ก็แล้วกัน   แสดงว่าการแผ่เมตตาของเราเขาก็คงได้รับ คงมาขอบคุณเราด้วยกระมัง หลังจากนั้นคุณแมงมุมก็ไม่มาให้เห็นอีกเลย

 


สรุปว่า วิชาของสัตว์ในธรรมชาติล้วนมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี หากเราพบว่าใครที่เราเกี่ยวข้องเขามีโครงสร้างหน้าตา  อุปนิสัยไปในทางสัตว์ชนิดใด และเราจะเป็นมิตรกับเขา เราต้องหาด้านดีอีกด้านหนึ่งให้เจอ แล้วให้พูดถึงเขาในทางที่ดี จะเปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตรได้ เหมือนเพื่อนร่วมงานคนที่พูดถึง เดี๋ยวนี้เราก็ญาติดีกันแล้ว เพื่อนท่านนี้ท่านอาจเป็นญาติเนื่องกันมากับคุณแมงมุม ก็เลยมีหน้าตาบางขณะคล้าย มีเคล็ดวิชาดีมีของวิเศษติดตัวมา แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราอ่านเขาออกก็แล้วกันนะ ขอบคุณนะคะคุณแมงมุม ขอท่านจงได้รับอานิสงฆ์จากการเขียนบทความนี้ด้วยเถิด ขอท่านจงมีความสุขเถิด