ตอนนั้นกองทัพของบังเต็กยกมาใกล้เมืองอ้วนเซีย ก็ให้ทหารทําธงประจําตัวผืนใหญ่จารึกชื่อให้รู้ว่าแม่ทัพหน้าคนนี้ชื่อ บังเต็ก เมื่อยาตราทัพเข้ามาใกล้ ให้ทหารโห่ร้องตีกลองเป็นที่อึกทึก ข่มขวัญกวนอูซึ่งตั้งค่ายประชิดเมืองอยู่

กวนอูทราบข่าวว่าบังเต็กแบกโลงมาที่สนามรบ มาใส่ศพตน ก็โกรธจัด ถือเป็นการสบประมาท จะออกไปรบ กวนเป๋งเห็นบิดาชราแล้ว ก็อาสาออกไปก่อน เจอบังเต็กถือง้าวนําหน้าทหารทั้ง ๕๐๐ คน เตรียมพร้อมที่จะรบ แล้วยกโลงผีใบนั้นตั้งไว้อยู่ตรงหน้าอีกด้วย

กวนเป๋งก็ออกมาด่าบังเต็กว่า อ้ายคนทรยศ ไม่ซื่อตรงต่อนายเก่าเมื่อครั้งก่อน บังเต็กไม่รู้จัก หันมาถามทหารว่าอ้ายคนนี้คือใคร ทหารบอกว่าคนนี้ชื่อ กวนเป๋ง ลูกเลี้ยง กวนอู บังเต็กบอกว่า ที่มาอาสาโจโฉจะมาเอาศีรษะกวนอูบิดาของเจ้า เจ้าเป็นเพียงลูกเล็กเด็กน้อยไม่ควรมายุ่ง รีบไปบอกบิดาให้ออกมารบ กวนเป๋งโกรธ เข้ารบกัน ๓๐ เพลงไม่แพ้ไม่ชนะ ต่างถอยกลับเข้าค่าย กวนเป๋งบอกบิดาว่ารบกัน ๓๐ เพลง เอาชนะบังเต็กไม่ได้

กวนอูเลยให้ทหารยกไปประชิดค่าย แล้วบอกว่าเราชื่อกวนอู เร่งเอาชีวิตมาให้กับเราเถิด บังเต็กไม่กลัว แถมยังคุยอีกว่า โจโฉใช้ให้เราเอาศีรษะท่าน ไม่เชื่อก็ลองดูโลงใบนี้เถิด ถ้ารักตัวกลัวตาย เร่งลงจากหลังม้ามายอมแพ้จะไว้ชีวิตให้ ทั้งสองฝ่ายรบกันเป็นร้อยเพลง ไม่แพ้ไม่ชนะกัน ทหารทั้งสองฝ่ายกลัวนายจะแพ้ ก็ตีม้าล่อแยกกลับเข้าค่ายตนเสียก่อน

บังเต็กบอกว่า ฝีมือกวนอูนี้แน่จริง รบมาทั้งวันยังไม่เพลี่ยงพล้ํากันเลย อีกิ๋มซึ่งเป็นแม่ทัพหลวงก็เตือนว่า เมื่อรบกันตั้งร้อยเพลงยังไม่ชนะ ทําไมจึงไม่ถอยมาตามคำสั่งของโจโฉ จริงๆ เบื้องหลังทหารตีม้าล่อสั่งถอย เพราะว่าอีกิ๋มอิจฉา กลัวว่าบังเต็กจะรบชนะ ก็เลยสั่งตีม้าล่อให้ถอยมาเสียก่อน อีกิ๋มถามว่าทำไมตอนตีม้าล่อจึงไม่รีบถอย บังเต็กบอกว่า เรารบเอง ยังไม่กลัวเลย ตัวท่านเองได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพหลวง ทําไมมาย่อท้อต่อข้าศึก ทหารรู้เข้าจะขายหน้า พรุ่งนี้จะออกรบกับกวนอู คราวนี้ไม่ตายกันไปข้างหนึ่งไม่ยอมถอยหลัง

ฝ่ายกวนอูก็สรรเสริญบังเต็กเหมือนกันว่า รบกันตั้งเยอะยังต้านทานเราไว้ได้ กวนเป๋งบอกว่า บิดารบชนะก็ไม่มีเกียรติอะไร เหมือนเอาชนะผู้หญิง เพราะบังเต็กเป็นทหารที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร ถ้าหากเกิดแพ้ขึ้นมาจะเสียเกียรติไปถึงพระเจ้าเล่าปี่ ไม่ควรออกไปรบเอง ให้กวนเป๋งออกไปรบดีกว่า กวนอูยืนยันต้องฆ่าบังเต็กให้ได้ในฐานที่ดูหมิ่นอย่างแรง

ครั้นรุ่งเช้า กวนอูกับบังเต็กก็ออกจากค่ายมาสู้กันอีกครั้งหนึ่ง พอปะง้าวกันได้สักสิบเพลง บังเต็กแกล้งทําเป็นเสียทีลากง้าวหนี กวนอูติดตามไปอย่างระมัดระวังเพราะรู้กลอุบายอยู่ แต่ก็พลาดจนได้ เพราะกวนเป๋งกลัวบิดาจะเป็นอันตราย รีบขับม้าตามไป พอเห็นบังเต็กเอาง้าวพาดตัก ชักเกาทัณฑ์ออกจะหันมายิง ก็ร้องตะโกนเตือนกวนอูออกไป กวนอูได้ยินไม่ถนัดก็เหลียวหน้ากลับมา เลยหลบลูกเกาทัณฑ์ของบังเต็กไม่พ้น โดนเข้าที่ไหล่ขวา กวนเป๋งก็เข้ากันบิดาถอยกลับ บังเต็กจะขยับเข้าซ้ําเติม พอดีอีกิ๋มแม่ทัพใหญ่แลเห็น คิดอิจฉากลัวจะชนะ ก็แกล้งตีม้าล่อให้ถอยทัพ บังเต็กนึกว่าจะเกิดเหตุร้ายแรง เลยยกทัพเข้าค่าย แต่ก็ไม่เห็นมีเหตุการณ์อะไร ก็ถามอีกิ๋มว่า กําลังจะมีชัยต่อข้าศึก ทําไมจึงเรียกกลับ อีกิ๋มก็อ้างคําสั่งของโจโฉว่า กวนอูนั้นมีปัญญามาก อาจแกลังทําเป็นถูกลูกเกาทัณฑ์ล่อให้ตามไปเสียก็ได้

บังเต็กเป็นดวงตัวอย่างที่มีดาว ๒ ๕ ๑ เสีย ดาว ๒ เสียของบังเต็กในที่นี้คือ ดาว ๒ เป็นนิจ จะได้รับความอิจฉาริษยาไม่ให้เกินหน้าอยู่เสมอๆ คนที่มีดาวจันทร์เป็นนิจอยู่ที่ราศีพิจิกไม่เกิน ๑๕ องศา ซึ่งดาว ๒ เป็นนิจ ตามตําราโบราณบอกว่า เป็นผู้หญิงไม่ค่อยดี อาจจะแต่งงานหลายครั้ง อาจจะมีปัญหาชีวิตครอบครัว มีความเป็นผู้หญิงน้อย หรือว่าผู้ชายที่มีดาว ๒ เป็นนิจ จะได้ภรรยาไม่ดีอะไรทํานองนี้

ในความหมายที่พบมากที่สุด ดาว ๒ เป็นนิจ จะเป็นลักษณะเหมือนบังเต็ก คือไปอยู่ที่ไหนมักจะได้รับการอิจฉาริษยาตลอด ไม่สามารถจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้เลย แล้วผนวกกับดาว ๑ เป็นวินาศด้วย ก็คือต้องเป็นเบอร์ ๒ ตลอด เก่งอย่างไรก็ตามไม่อาจจะขึ้นไปได้เลย ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ดี บังเต็กอยู่กับพี่ชายพี่สะใภ้ ก็มีเหตุต้องฆ่าพี่สะใภ้ตาย ถูกกลั่นแกล้ง เรียกว่าพี่สะใภ้ประทุษร้ายแก่ข้าพเจ้า ดาว ๒ เป็นนิจ คือผู้หญิงจะต้องใส่ร้ายป้ายสี หรือไปอยู่กับใครก็ต้องโดนอิจฉา โดนได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นเรื่องเลย เพราะบังเต็กเสพสุราแล้วฆ่าพี่สะใภ้ พอไปอยู่กับม้าเฉียว ม้าเฉียวใจกล้าแต่หาปัญญาไม่ได้ ไปอยู่กับคนไม่ดี นายไม่ดีอีก คือ ดาว ๑ เสีย พอไปอยู่กับโจโฉก็ยังไม่ได้ทําอะไร ดาว ๑ ๒ ๕ ที่เสียนั้นก็ยังไม่ได้สําแดงผล  ดาว ๕ เสียก็โดนยุ ตอนบังเต็กอาสาไปรบกับกวนอู คนอื่นก็ไม่ให้ออกไปรบ เจ้านายก็ไปเชื่อเขาอีก เจ้านายมองไม่เห็นคือดาว ๕ เสีย